อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ
Description
ข้อมูลจากสำนักอุทยานแห่งชาติ, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
อุทยานแห่งชาติภูเก้า - ภูพานคำ (เปิด) (Phu Kao - Phu Phan Kham)
ที่ตั้งและข้อมูลทั่วไป
สถานที่ติดต่อ : หมู่ที่ 6 ต.บ้านค้อ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู 39140 หรือ ตู้ ปณ.2 ปทจ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น 40250
E-mail : Phukao.np50@gmail.com
โทรศัพท์ : 063 648 4821
Facebook : อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ Phu Kao Phu Phan Kham National Park
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ: นายธงชัย นาราษฎร์
ตำแหน่ง : นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
**หมายเหตุ เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วกรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ
สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่
1. บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ : TRUE, DTAC,AIS
2. บริเวณพื้นที่บริการนักท่องเที่ยว (โซนภูพานคำ) : AIS, TRUE, DTAC
3. บริเวณแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ (โซนภูเก้า) : AIS
แต่เดิม กรมป่าไม้ ได้พิจารณากำหนดให้พื้นที่ป่าบริเวณภูเก้า เป็นป่าโครงการไม้กระยาเลย เพื่อใช้สอย ตามหนังสือกรมป่าไม้ ที่ กษ 0703/38 ลงวันที่ 5 มกราคม 2513 ซึ่งต่อมา ป่าภูเก้า แห่งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศให้เป็นป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าภูเก้า” ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 490 (พ.ศ.2515)ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2515 และเมื่อ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2524 นายสุพรรณ สุปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ได้มีหนังสือกราบเรียนต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณาจัดป่าสงวนแห่งชาติภูเก้า ท้องที่จังหวัดอุดรธานี เป็นอุทยานแห่งชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจึงมีหนังสือ สร .0107(งสส)/3782 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2524 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาเรื่อง ซึ่งรองอธิบดีกรมป่าไม้ (นายจำนงค์ โพธิสาโร) ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ มีบันทึกท้ายหนังสือกองอุทยานแห่งชาติ ที่ กส 0708/1198 ลงวันที่ 8 เมษายน 2524 ให้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้จึงได้มีคำสั่งที่ 571 / 2524 สั่งให้นายวินัย ชลารักษ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 ไปสำรวจหาข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งจากการสำรวจพบว่าป่าสงวนแห่งชาติภูเก้า ประกอบด้วยพันธุ์พืช สัตว์ป่า และจุดเด่นคือมีทิวทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามหนังสือรายงานการสำรวจเบื้องต้น ที่ กส 0708(ภพ)/257 ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2524 และทางสภาตำบลโนนสัง จังหวัดอุดรธานี ได้มีหนังสือลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2526 สนับสนุนให้ดำเนินการจัดตั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 2/2526 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2526 ให้กำหนดพื้นที่ดังกล่าว เป็นอุทยานแห่งชาติได้
ต่อมา อุทยานแห่งชาติภูเก้า (นายพิชา พิทยขจรวุฒิ) ได้มีหนังสือ ที่ กษ 0713(ภก)/8 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2527 ขอผนวกพื้นที่เทือกเขาภูพานคำ บริเวณด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งมีสภาพป่าเต็งรังค่อนข้างสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่สวยงามรอบอ่างเก็บน้ำเข้าเป็นอุทยานแห่งชาติด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์สมบูรณ์ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งได้มีการดำเนินการประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยมีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าภูเก้า ในท้องที่ตำบลหัวนา ตำบลนามะเฟือง อำเภอเมือง ตำบลบ้านถิ่น ตำบลโคกม่วง ตำบลพัฒนานิคม ตำบลโนนเมือง ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู และที่ดินป่าภูพาน ในท้องที่ตำบลกุดดู่ ตำบลโนนสัง ตำบลบ้านค้อ ตำบลหนองเรือ ตำบลโคกใหญ่ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู และป่าโคกสูง ป่าบ้านดง ในท้องที่ตำบลศรีสุขสำราญ ตำบลนาคำ ตำบลบ้านดง จังหวัดขอนแก่น เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2528 ซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 102 ตอนที่ 130 ลงวันที่ 20 กันยายน 2528 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 50 ของประเทศไทย
สถานที่ท่องเที่ยว
ถ้ำน้ำลอด
สุสานหอยหิน
รอยเท้าไดโนเสาร์
น้ำตกตาดโตน
น้ำตกตาดหินแตก
น้ำตกตาดฟ้า
เสาหินหามต่าง
ผาหินมะลึกคึกคัก
จุดชมทิวทัศน์หอสวรรค์
จุดชมทิวทัศน์ช่องเขาขาด
อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์
แหลมสำราญ
ผาหินฝ่ามือแดง
ผาหินเรขาคณิต
พิพิธภัณฑ์แหล่งซากดึกดำบรรพ์
ถ้ำมึ้ม
รอยเท้านายพราน
ถ้ำสามตา
ขนาดพื้นที่
198,973.00 ไร่
หน่วยงานในพื้นที่
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 1 (วังมน)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 2 (นามะเฟือง)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 3 (โนนตาล)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 4 (หนองแสง)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 5 (ถ้ำกกดู่)
หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติฯ ที่ ภก. 6 (ปางกู่)
ด่านตรวจชั่วคราว (ตาดโตน)
ด่านตรวจชั่วคราว (ตาดไฮ)
จุดสกัดหัวนา
จุดสกัดกุดดู่
ลักษณะภูมิประเทศ
เทือกเขาภูเก้าเป็นภูเขาหินทราย ซึ่งมีชั้นของหินทรายอยู่ด้านบนระดับผิวดิน โดยมีชั้นของหินดินดานปนหินทรายเป็นพื้นฐานด้านล่าง มีดินประเภท ดินลูกรัง และดินร่วนปนทราย (Sandy Loam) กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีลักษณะเป็นเทือกเขาสองชั้น ชั้นนอกเป็นภูเขาสูงลาดชันมาก ขณะที่ไหล่เขาด้านในไม่ชันมากนัก ส่วนภูพานคำเป็นแนวทิวเขายาวต่อเนื่องกัน ของเทือกเขาภูพาน เรียงตัวกันตามแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ – ตะวันตกเฉียงใต้ มีความลาดชันสูงในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ(ในเขตจังหวัดอุดรธานี) และลาดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความชันต่ำกว่า(ในเขตจังหวัดขอนแก่น) มีลักษณะคล้ายช้อน บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นอ่างที่ราบต่ำลุ่มน้ำพอง ซึ่งกลายเป็นทะเลสาบหลังสร้างเขื่อนอุบลรัตน์ และเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ
ลักษณะภูมิอากาศ
ฤดูกาลของอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยจะร้อนจัดในเดือนเมษายน ฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนจะตกมากช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์
- อุณหภูมิ สูงสุด 41 องศาเซลเซียส (ช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน ของทุกปี)
- อุณหภูมิ ต่ำสุด 12 องศาเซลเซียส (ช่วงเดือน ธันวาคม – มกราคม ของทุกปี)
- จำนวนปริมาณน้ำฝน ประมาณปีละ 1,295.5 ลูกบาศก์มิลิเมตร
ลักษณะภูมิอากาศที่ผิดปกติ สภาพการแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ ทำให้เกิดผลกระทบทั้งทางกายภาพและชีวภาพของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ แต่ไม่ปรากฏภัยธรรมชาติร้ายแรง ยกเว้นพายุตอนต้นและตอนปลายฤดูฝน ทำให้มีกระแสลมแรง กระแสคลื่นในทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์มีความสูงสันคลื่น ประมาณ 30 เซนติเมตร (เป็นอันตรายต่อเรือขนาดเล็ก) หากฝนตกหนักติดต่อกัน อาจมีน้ำไหลบ่า การระบายน้ำในบางพื้นที่ช้า โดยเฉพาะบริเวณถนนถูกน้ำชะ กัดเซาะ ไหล่บ่าไปตามถนน ทำให้เส้นทางการเดินทางยากลำบากมากโดยเฉพาะเส้นทางลูกรังทั้งส่วนภูเก้า และส่วนภูพานคำ อีกประการหนึ่งคือ หินทรายขนาดใหญ่ พังถล่ม (ช่วงถนนช่องเขาขาดหน้าที่ทำการฯ) ทำให้เกิดการแตก ชำรุด อุดตัน ทางระบายน้ำ ริมถนน
พืชพรรณและสัตว์ป่า
พันธุ์พืชในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ สามารถจำแนกประเภทสังคมพืชออกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1.) ป่าดงดิบแล้ง ( Dry Evergreen Forest ) ป่าประเภทนี้จัดเป็นป่าประเภทที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ มีอยู่บริเวณริมฝั่งห้วยและริมฝั่งลำธาร ไหล่เขา และ หุบเขาบางบริเวณ ที่ราบต่ำระหว่างภูขอบด้านนอกและภูขอบด้านในทางทิศเหนือของส่วนภูเก้า ระหว่าง บริเวณเหนือหมู่บ้านวังมนและภูขอบด้านใน บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้านดงบากไปทางวัดพระพุทธบาทภูเก้า ส่วนภูพานคำ มีป่าดงดิบแล้งบริเวณต้นน้ำลำห้วยคุมมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของส่วนภูพานคำ ป่าประเภทดงดิบแล้งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ : ตะแบก ตะเคียนหิน ยางนา มะค่าโมง กระบาก เขล็ง และ เถาวัลย์หลายชนิด
2.) ป่าเบญจพรรณ ( Mixed Deciduous Forest )
มีอยู่บริเวณที่แห้งแล้งกว่าป่าดงดิบแล้ง แต่ชุ่มชื้นกว่าป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณที่มีปรากฏอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ คือ บริเวณที่ราบภายในวงเขาขอบใน ของส่วนภูเก้าและบริเวณที่ราบไหล่เขาช่องภูเมย และ ขอบภูด้านนอก โดยเฉพาะบริเวณทิศเหนือของภูขอบ บริเวณลาดไหล่เขาใกล้วัดพระพุทธบาทภูเก้า สำหรับส่วนภูพานคำ จะพบป่าเบญจพรรณนี้เป็นบริเวณหย่อมเล็กๆ บริเวณที่มีความลาดชันน้อยด้านจังหวัดขอนแก่น มีเนื้อที่ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ : แดง ประดู่ มะค่าโมง มะค่าแต้ กระบก ตะคร้อ ตีนนก ยอป่า งิ้วป่า และไม้พื้นป่าประกอบด้วย ไผ่ไร่ หญ้าคา เป็นต้น
3.) ป่าเต็งรัง(Dry Dipterocarpus Forest)
ป่าประเภทนี้ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในพื้นที่ทั้งหมดของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ โดย มีเนื้อที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เกิดขึ้นโดยทั่วไปโดยเฉพาะในที่ลาดเขา ที่มีหินทรายโผล่พ้นผิวดินและในที่ราบซึ่งมีความชุ่มชื้นน้อย บริเวณที่พบว่าเป็นป่าเต็งรังเป็นบริเวณกว้าง ได้แก่ พื้นที่ภูเขาของภูขอบด้านนอก และบริเวณสันเขาภูพานคำ
ประกอบด้วยพันธุ์ไม้สำคัญ ได้แก่ :เหียง พลวง พะยอม กระโดน กว้าว ส้มกบ มะกอก มะขามป้อม และไม้พื้นป่า ประกอบด้วย ปรงป่า หญ้าเพ็ก เป้ง ลาน เถาวัลย์หลายชนิด และพุ่มไม้หนามบางพันธุ์รวมทั้ง ผักหวาน
สำหรับสัตว์ป่า ตามสภาพที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน มีพันธุ์สัตว์ที่หลงเหลืออาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำน้อยมาก เนื่องจากสาเหตุที่สำคัญ 2 ประการคือ
* การทำลาย หรือ ล่าสัตว์
* การทำลายถิ่น/แหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์
เท่าที่หลงเหลืออยู่ ปรากฏร่องรอยของสัตว์ และคำบอกเล่าว่าพันธุ์สัตว์ที่เคยมีปรากฏอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ มีดังนี้
1.) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประกอบด้วย : หมูป่า อีเห็นหลายชนิด ชะมดหลายชนิด กระรอก กระแตหลายชนิด หนูป่าหลายชนิด เก้งกระต่ายป่า ตุ่น บ่าง ลิงลม
2.) นก ประกอบด้วย : ไก่ป่า นกยูง นกแก้ว นกแขกเต้า นกเขาหลายชนิด นกแซงแซวหลายชนิด
นกตะขาบดง นกเค้าป่า นกเอี้ยงสาริกา นกหัวขวานหลายชนิด เหยี่ยวหลายชนิด นกเป็ดแด นกเป็ดคับแค นกยางเปีย
3.) สัตว์เลื้อยคลาน ประกอบด้วย : เต่าหก เต่าเหลือง กิ้งก่าหลายชนิด ตุ๊กแกหลายชนิด จิ้งเหลนหลายชนิด จิ้งจกหลายชนิด และงูหลายชนิดทั้งมีพิษและไม่มีพิษ
4.) สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ประกอบด้วย : กบ เขียด ปาด คางคก อึ่งอ่าง
5.) ปลา อุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ มีพื้นที่ส่วนน้ำทะเลสาบเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ ประมาณ 85 ตารางกิโลเมตร หรือ 53,125 ไร่ และตามลำห้วยลำธารทั้งส่วนภูเก้า - และส่วนภูพานคำประกอบด้วย :พันธุ์ปลาที่เกิดขึ้นทั้งตามธรรมชาติและการเพาะเลี้ยง
การเดินทาง
จาก จังหวัดขอนแก่นไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น - อุดรธานี) ถึงบ้านคำแก่นคูณเลี้ยวซ้ายไปเขื่อนอุบลรัตน์ตามแนวทางหลวงหมายเลข 2109 ถึง อ.อุบลรัตน์ แยกไปทางขวาตามทางหลวงหมายเลข 2146 ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ รวมระยะทาง 63 กิโลเมตร
จาก จังหวัดหนองบัวลำภูเลี้ยวซ้ายที่บ้านวังหมื่น ไปตามทางหลวงหมายเลข 2146 (หนองบัวลำภู – อำเภออุบลรัตน์) แยกซ้ายที่บ้านโสกจาน ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูเก้า – ภูพานคำ รวมระยะทาง 57 กิโลเมตร
หอสวรรค์ เป็นจุดชมทิวทัศน์ บริเวณเทือกเขาภูเก้า มองเห็นทิวทัศน์ของที่ราบจังหวัดหนองบัวลำภู และผืนป่าเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติกว้างไกลไปจนถึงอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ บริเวณนี้มีก้อนหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมหน้าผา ความสูง 30 เมตร มีบันไดขึ้นไปบนก้อนหินซึ่งมีศาลาตั้งอยู่ ชาวบ้านจึงเรียกจุดชมวิวบนหินก้อนนี้ว่า “หอสวรรค์”
อ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เป็นทะเลสาบ
ขนาดใหญ่โอบล้อมด้วยภูเขาหินทรายสูงตระหง่าน มีทัศนียภาพที่สวยงาม จึงเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ
จุดชมวิวช่องเขาขาด บริเวณนี้เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนอุบลรัตน์ เพราะเป็นมุมสูงอยู่ช่วงสันเขาภูพานคำ ทำให้เห็นทัศนียภาพมุมกว้าง มองได้ไกล ซึ่ง ณ จุดนี้เป็นจุดแบ่งเขตระหว่างอำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และอำเภอโนนสังจังหวัดหนองบัวลำภู ในช่วงเย็น(พลบค่ำ) บริเวณนี้จะสวยงามมากในการชมพระอาทิตย์ตก
สุสานหอยหิน
รอยเท้าไดโนเสาร์
ถ้ำฝ่ามือแดง เป็นเพิกผาหน้าถ้ำขนาดตื้นๆ มีรอยมือซ้ายและขวาสีแดงจากยางไม้ชนิดหนึ่งประทับติดกับผนังถ้ำ อยู่บริเวณพื้นที่ป่าโซนภูเก้า
ถ้ำเรขาคณิต เป็นเพิกผาหน้าถ้ำขนาดตื้นๆ มีรอยสลักแบบนูนต่ำบนผิวผนังถ้ำหินทราย เป็นรูปทรงเรขาคณิต อยู่บริเวณพื้นที่ป่าโซนภูเก้า
น้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกขนาดเล็ก เกิดจากน้ำซับไหลลงมารวมกันไหลผ่านหินต่างระดับ ซึ่งอยู่โซนภูเก้า ห่างจากด่านตรวจตาดโตนของอุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ ประมาณ 300 เมตร
น้ำตกตาดหินแตก เป็นน้ำตกขนาดเล็ก สูงประมาณ 4 เมตร กว้าง 7 เมตร เกิดจากลำห้วยบองไหลผ่านหิน ต่างระดับ ซึ่งอยู่โซนภูเก้า มีน้ำมากช่วงหน้าฝน
น้ำตกตาดฟ้า อยู่บริเวณเทือกเขาภูเก้า เป็นน้ำตกที่สวยงามมีน้ำมากเฉพาะฤดูฝน เป็นน้ำตกขนาดเล็กไหลตามลำธารเล็กๆ ท่ามกลางป่าเบญจพรรณ มีน้ำช่วงหน้าฝน
เสาหินหามต่าง เป็นลานหินที่มีก้อนหินรูปทรงแปลกๆ ตั้งซ้อนกันอยู่ เป็นประติมากรรมธรรมชาติ หามต่างหรือหามตั้ง เป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติเช่นเดียวกับเสาเฉลียงที่ผาแต้ม คือ เกิดจากการกัดเซาะของน้ำ สายลม และแสงแดด มีลักษณะเป็นแท่งหินตั้งขึ้น ส่วนบนเป็นแผ่นหินวางอยู่โดยไม่ติดกัน มองดูคล้ายดอกเห็ด
ผาหินมะลึกคึกคัก มีลักษณะเป็นหน้าผาสูงสามารถมองเห็นภูพานคำมุมกว้างได้อย่างชัดเจน เป็นก้อนหินกว้างประมาณ 3 เมตร ยาว 8 เมตร และสามารถโยกก้อนหินได้ด้วยแรงคนเพียงคนเดียว
สิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และสถานที่กางเต็นท์
ที่พัก - ภูเก้า 101 (กุหลาบหิน)
ที่พัก - ลานกางเต็นท์
Location
Contact Information
Review
Login to Write Your ReviewThere are no reviews yet.